ความเป็นมาของ
เมืองนครราชสีมา

จังหวัด นครราชสีมา เริ่มต้นในลุ่มแม่น้ำมูลตอนบน บริเวณอำเภอโนนสูง พิมาย และจักราช การพบชุมชนยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่บ้านปราสาท อายุประมาณ 2,500 - 3,000 ปี เป็นหลักฐานที่ยืนยันสมมุติฐานได้เป็นอย่างดีจนกระทั่งพุทธศตวรรษที่ ๑๖ การสร้างปราสาทหินพิมาย เพื่อเป็นศูนย์กลางของการนับถือพุทธศาสนา ลัทธิมหายาน แสดงให้เห็นถึงความเจริญเติบโตของชุมชนในแถบนครราชสีมา ที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องได้เป็นอย่างดี อิทธิพลของรัฐไทยเริ่มแพร่เข้ามาสู่นครราชสีมาในสมัยอยุธยา เริ่มปรากฎชื่อนครราชสีมาในกฎหมายตราสามดวง เรื่อง พระอัยการตำแหน่งนาพลเรือนและนาทหารหัวเมืองที่ประกาศใช้ในปีพุทธศักราช ๑๙๙๘ สมัยพระบรมไตรโลกนาถ ระบุว่าเมืองนครราชสีมาเป็นเมืองชั้นโท เจ้าเมืองมีบรรดาศักดิ์เป็นออกญากำแหงสงครามรามภักดีพิรียะภาหะ ศักดินา ๑๐,๐๐๐ ไร่ แต่ที่น่าสนใจที่สุด อยู่ตรงที่ว่านครราชสีมาเป็นเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพียงเมืองเดียว ที่ถูกระบุไว้ในรายชื่อเมืองของกฎหมายฉบับนี้
สมัย สมเด็จพระนารายณ์น่าจะเป็นสมัยที่เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ นครราชสีมา โดยโปรดให้ย้ายเมืองนครราชสีมาจากท้องที่อำเภอสูงเนินมาตั้งอยู่ในที่ตั้ง ปัจจุบัน โดยสร้างเมืองนครราชสีมาเป็นป้อมปราการในฐานะเมืองสำคัญชายพระราชอาณาเขต และทรงเลือกสรรข้าราชการที่มีความสามารถออกไปปกครองในสมัยธนบุรี นครราชสีมามีบทบาทเป็นเสมือนตัวแทนของส่วนกลางในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในปีพุทธศักราช ๒๔๓๖ เกิดสถานการณ์ที่มีแนวโน้มจะเป็นวิกฤติการณ์ทางการเมืองขึ้นที่กรุงเทพฯ เมืองเวียงจันทน์และเมืองจำปาศักดิ์ได้ใช้โอกาสนั้นดิ้นรน เพื่อให้หลุดพ้นจากอำนาจของไทย เจ้าอนุวงศ์ยกกองทัพมาแต่ฝ่ายไทยสามารถปราบปรามเหตุการณ์นี้ จนกระทั่งทำลายเวียงจันทน์ลงหลังสิ้นเหตุการณ์กบฎอนุวงศ์เมืองนครราชสีมา กลายเป็นกำลังสำคัญของรัฐไทยในภาคคะวันออกเฉียงเหนือ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ประเทศไทยได้ทำสัญญาเบาว์ริงกับอังกฤษ และสัญญา ลักษณะเดียวกันกับชาติตะวันตกอื่น ๆ เช่น ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการยกเลิกการค้าแบบผูกขาด เป็นการค้าที่ให้เอกชนเข้ามาทำการค้าขายได้ เมืองนครราชสีมาได้รับความสนใจในฐานะที่มีสินค้าออกที่สำคัญ เช่น หนังสัตว์ เขาสัตว์ และงานอกจากนี้รัชกาลที่ ๔ ยังทรงมีพระราชดำริที่จะตั้งให้เป็นเมืองราชธานีแห่งที่ ๒ แต่เนื่องจากขาดแคลนน้ำและการคมนาคมไม่สะดวก จึงโปรดให้สร้างที่ประทับที่พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ที่เมืองลพบุรี ซึ่งสร้างสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแทน
ประวัติความเป็นมาผัดหมี่โคราช...
ผัดหมี่โคราช เป็นหนึ่งในอาหารพื้นบ้านของเมืองย่าโม ที่หาทานได้ง่ายทั่วไปเพราะในสมัยก่อน เมืองโคราช มีการปลูกข้าวเจ้ามาก จึงมีการดัดแปลงข้าวมาทำเป็นเส้นหมี่และเพื่อเป็นการถนอมอาหารอีกรูปแบบหนึ่งด้วย จากการนำเส้นหมี่ไปตากแฟ้ง แล้วเก็บไว้ทานในมื้อต่อๆ ไป ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมา นิยมรับประทานผัดหมี่โคราชร้อนๆ กับส้มตำเผ็ดๆ ซึ่งถือว่าเป็นอาหารที่รับประทานเข้ากันได้ดีทีเดียว รสชาติอร่อย ถูกใจคนโคราช ถ้าใครได้ลองรับประทานต้องติดใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น